วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

Audi A6 ใหม่ สปอร์ตซีดานสุดแสนเร้าใจ

Audi A6 ใหม่ สปอร์ตซีดานสุดแสนเร้าใจ



The new Audi A6 2.0 TFSI

At a glance: The new Audi A6 2.0 TFSI

· เป็นรถรุ่นใหม่ ซึ่งการออกแบบภายในและภายนอกเน้นความเป็นรถสปอร์ตโดยเฉพาะ
· มีขนาดความยาว 4927 มม. ความกว้าง 1855 มม. และความสูง 1459 มม. โดยมีความยาวฐานล้อ 2843 มม.
· มีเนื้อที่ภายในรถกว้างขึ้นสำหรับผู้โดยสารทั้งหมด
· ระบบการเปลี่ยนเกียร์เป็นแบบ multitronic + tiptronic 7 สปีด
· ระบบกันสะเทือนด้านหน้า แบบ โฟล์ลิ้ง( 4-Link) ซึ่งเป็นระบบกันสะเทือนเชื่อมโยง 4 จุดด้านหน้าและระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบ trapezoidal-link
· พวงมาลัยปรับความหนักเบาที่สัมพันธ์กับความเร็ว แบบ servotronic
· ระบบเบรกที่มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงพร้อมระบบช่วยเบรก (Brake Assist)
· เบรกมือไฟฟ้า Electromechanical parking brake เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
· ไฟส่องสว่างซีนอนพร้อม Adaptive Light ที่สามารถปรับทิศทางขณะเข้าโค้ง และระบบเปิดไฟขณะขับรถในเวลากลางวัน รวมทั้งไฟเบรกแบบ LED
· ไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์ใหม่พร้อมไฟ LED
· ระบบเปิด – ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟหน้าจะติดและดับเองโดยอัตโนมัติซึ่งขึ้นอยู่กับแสงสว่างภายนอก พร้อม coming home/ leaving home function.
· ไฟตัดหมอก
· ระบบ MMI Radio Plus หน้าจอสีขนาด 6.5 นิ้ว ต่อกับระบบวิทยุที่เป็น Double tuner ระบบเสียง DSP และเครื่องเล่น CD 1 แผ่น เล่นไฟล์ MP3, WMA และช่องอ่าน SD Card
· ระบบแอร์ปรับอากาศอัตโนมัติที่ให้ความสะดวกสบายสูง
· เครื่องยนต์ 2.0 TFSI ให้สมรรถนะแรง ทรงพลัง ให้อัตราเร่งเร้าใจกว่าเดิม แต่ช่วยประหยัด น้ำมันมากกว่าเดิม



ไฟหน้า ไฟท้าย และไฟเบรก LED

· ไฟหน้า ดีไซน์ใหม่แบบซีนอนพลัส พร้อมระบบฉีดน้ำล้างไฟหน้า และไฟ LED 6 ดวง
· ไฟท้าย ดีไซน์ใหม่พร้อมไฟ LED ดูสวย สปอร์ต โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น
· มีไฟเบรกแบบใหม่ โดยเป็นไฟ LED ซึ่งมีอายุการใช้งานไม่ต่ำกว่า 10,000 ชั่วโมงและช่วยประหยัดพลังงานได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์
· หลอดไฟเปิดติดได้รวดเร็ว โดยหลอดไฟแบบเก่าจะให้แสงเต็มที่ภายในเวลาประมาณ 200 milliseconds ในขณะที่หลอดไฟ LED ให้ความเข้มของแสงเต็มที่ภายในเวลาไม่ถึง 1 milliseconds ซึ่งช่วยให้คนขับรถตามหลังสามารถเห็นแสงไฟได้ในเวลาที่รวดเร็วขึ้น

· การออกแบบไฟที่เน้นมุมด้านหลังของรถ ซึ่งทำให้เกิดสัญลักษณ์ไฟเบรกแบบสปอร์ต



ระบบเกียร์

· ระบบเกียร์ multitronic + tiptronic 7 สปีด พร้อมระบบ Dynamic Control Program
· คันเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติมีน้ำหนักเบา คล่องตัวและกระชับเหมาะมือ ทำให้ผู้ขับขี่มีความสบายในขณะขับขี่แบบสปอร์ต ซึ่งเป็นสัญลักษณ์การขับขี่รถ A6 โดยแท้จริง
· ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม/ชม. ภายในเวลาเพียง 8.5 วินาที
· ทำความเร็วสูงสุดได้ 224 กม./ชม.




เครื่องยนต์ 2.0 TFSI

· เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 1984 ซีซี พร้อม Fuel Stratified Injection (FSI) และ TurboCharger
· ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้าที่ 4,300 – 6,000 รอบต่อนาที
· ให้แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 4,200 รอบต่อนาที
· ให้อัตราเร่งเร้าใจกว่าเดิม จาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 8.5 วินาที
· ให้การประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยม ดีกว่าเครื่องยนต์ในขนาดเดียวกันถึง 15%
· เครื่องยนต์ 2.0 TFSI ใช้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง เฉลี่ย 12.99 กม./ลิตร
· เครื่องยนต์ 2.0 TFSI ได้รับรางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมระดับโลก “Engine of the Year” ติดต่อกัน 4 ปีซ้อน

ระบบกันสะเทือน (Dynamic Suspension)

· ด้านหน้าเป็นแบบอิสระ 4 – link
· ด้านหลังเป็นแบบ Self-tracking trapezoidal - link
· วัสดุหลักทำจากอลูมิเนียมเพื่อช่วยลดน้ำหนัก
· มีการปรับปรุงระบบกันสะเทือนใหม่ให้ดีขึ้น เพื่อเพิ่มความนิ่มนวลให้มากขึ้น แต่ยังได้ คาแรคเตอร์ความเป็นสปอร์ต
· มีการติดตั้งโช้คอัพใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมวาล์วปรับความแข็งนุ่มเพื่อการตอบสนองในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม
· การบังคับควบคุมที่แม่นยำ ด้วยระบบ servotronic ที่แปรผันน้ำหนักการบังคับควบคุมพวงมาลัยตามความเร็วรถ จึงทำให้ Audi A6 ใหม่ เป็นรถยนต์ที่สปอร์ตที่สุดในรถระดับเดียวกัน

วันเสาร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2552

Ford Focus ปรับโฉมใหม่ พร้อมเกียร์ PowerShift สุดล้ำ

ฟอร์ด โฟกัส TDCi ใหม่

· ฟอร์ด นำนวัตกรรมใหม่ "เกียร์ออโตเมติก PowerShift" ติดตั้งใน ฟอร์ด โฟกัส TDCi เทอร์โบดีเซล ที่มีแรงบิดมหาศาล ประหยัดน้ำมันเหนือคู่แข่ง และให้สมรรถนะการขับขี่ ที่เหนือใคร ในตลาดรถยนต์นั่งระดับเดียวกัน
· เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด PowerShift มีระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติและการวิ่ง ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตั้งแต่รอบความเร็วต่ำ ให้ความคล่องตัวสูงสุดเมื่อขับขี่ในเมือง ที่การจราจรคับคั่ง
· ฟอร์ด โฟกัส TDCi เทอร์โบดีเซล 2.0 ลิตร เกียร์ออโตเมติก PowerShift ประหยัดน้ำมันเหนือคู่แข่งในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดกลางอย่างน่าประทับใจด้วยอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพียงประมาณ 5.81 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรเท่านั้น (อัตราเฉลี่ยทั้งการขับขี่ในเมืองและนอกเมือง)
· ฟอร์ด โฟกัสให้ความสะดวกในเรื่องการเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เนื่องจากเติมได้ทั้งน้ำมันดีเซลทั่วไปและน้ำมันดีเซล B5 (มีไบโอดีเซลอยู่ 5%)
· ฟอร์ด โฟกัส TDCi ใหม่ โฉบเฉี่ยวปราดเปรียวกว่าเดิม ด้วยกลิ่นอายแนวการออกแบบ “เคเนอติกดีไซน์” (kinetic design)
· ภายในตกแต่งใหม่ด้วยวัสดุคุณภาพสูง ให้สัมผัสที่อบอุ่น และนุ่มสบาย
· อุปกรณ์ต่างๆ ที่หน้าปัดมีไฟเรืองแสงโทนสีแดงอ่อน เพิ่มความสวยแปลกใหม่ภายในห้องโดยสาร
· อุปกรณ์คุณภาพสูงของโฟกัสใหม่ ตกแต่งด้วยแผงหน้าปัดระดับพรีเมียม ระบบเซ็นเซอร์ช่วยการถอยจอด และกระจกไฟฟ้าอัตโนมัติแบบ One-Touch ทั้ง 4 บาน
· โฟกัส TDCi ใหม่ มี 2 รุ่นให้เลือก ได้แก่ เกีย (Ghia) แบบ 4 ประตูซีดาน และสปอร์ต (Sport) 5 ประตูสุดเท่
· เพิ่มความปลอดภัยด้วยการติดตั้งระบบควบคุมเสถียรภาพอิเล็กทรอนิกส์ ESP ให้กับฟอร์ด โฟกัสเครื่องยนต์ดีเซล ทั้งรุ่นสปอร์ต และรุ่นเกีย

“สมรรถนะการขับขี่เป็นจุดเด่นอันหนึ่งของโฟกัสมาตลอด วิศวกรของเราในเอเชียแปซิฟิก และแอฟริกาได้ร่วมกับทีมวิศวกรในยุโรป พัฒนาฟอร์ด โฟกัส ให้ขับขี่ให้ดียิ่งขึ้นไม่ว่าจะในเมืองหรือนอกเมืองก็ตาม เรามั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่า การเปิดตัวฟอร์ด โฟกัส TDCi ที่ติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ PowerShift จะสนองความต้องการของลูกค้าทั่วเอเชียได้เป็นอย่างดี”
จอห์น ปาร์คเกอร์
รองประธานบริหาร
ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกและแอฟริกา
ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี
ตุลาคม 2551

หลังจากประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นเมื่อเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยในปี 2550 ฟอร์ด โฟกัส TDCi พร้อมเครื่องยนต์ดีเซลที่ให้ทั้งสมรรถนะ ตอบสนองทันใจ และประหยัดน้ำมันสูงสุด ก็กลับมาสร้างความตื่นเต้นในเมืองไทยอีกครั้งในโฉมใหม่ พร้อมนวัตกรรมเกียร์อัตโนมัติ PowerShift 6-สปีดครั้งแรกในเอเชีย และระบบการทรงตัวที่เหนือระดับ ESP ฟอร์ด โฟกัส TDCi ใหม่ที่เปิดตัวในคราวนี้ได้แก่รุ่น เกีย (Ghia) 4 ประตู และสปอร์ต (Sport) 5 ประตู




ฟอร์ด และกลิ่นอายการออกแบบ “เคเนอติก” ดีไซน์

ฟอร์ด โฟกัส TDCi มาในโฉมใหม่ที่โดดเด่นกว่า ด้วยหน้าตาที่ดูทันสมัย มาดสปอร์ต เท่ ปราดเปรียวยิ่งขึ้น ทีมออกแบบของฟอร์ดในเอเชียแปซิฟิกและแอฟริกาในประเทศออสเตรเลีย ใช้วิธีการ “ปรับโฉมรวม” ของฟอร์ด โฟกัสทั้งคัน โดยอาศัยหลักการออกแบบ “เคเนอติก” (kinetic)

ด้านหน้าของตัวรถ สะดุดตาด้วยช่องระบายลมทรงสี่เหลี่ยมคางหมูใต้กันชน กระโปรงหน้าทรงใหม่ที่โค้งมนมากขึ้น กระจังหน้าใหม่ (ติดตราสัญลักษณ์ฟอร์ดขนาดใหญ่เด่นชัดขึ้น) ล้ออัลลอยใหม่ขนาด 16 นิ้ว เท่ โดดเด่นด้วยมาดสปอร์ต สะดุดตาเมื่ออยู่บนท้องถนน


ภายในนั่งสบายใช้สะดวกมากขึ้น ด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยม และการออกแบบที่เข้ากับสรีระผู้ขับขี่และผู้โดยสารมากยิ่งขึ้น มาตรวัดรอบเครื่องและความเร็วมีขนาดใหญ่และติดตั้งอยู่ลึกเข้าไปในแผงหน้าปัดในเบ้าแบบเฉียงขลิบสีเงินหรู ด้านบนของหน้าปัดเป็นเข็มวัดอุณหภูมิหม้อน้ำและระดับน้ำมัน ระหว่างมาตรวัดขนาดใหญ่ทั้ง 2 อันเป็นจอ LCD ที่แสดงเวลา อุณหภูมิภายนอก ระยะทางในแต่ละทริป และเลขไมล์ รวมทั้งยังสามารถเรียกดูระยะทางที่วิ่งได้คำนวณจากปริมาณน้ำมันที่เหลืออยู่ในถัง ค่าความเร็วเฉลี่ย และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ย แผงหน้าปัดจะเรืองแสงสีแดงอ่อนในช่วงกลางคืนที่สบายตา
คอนโซลกลางแบบใหม่ได้รับการออกแบบให้ใช้งานสะดวกสบายยิ่งขึ้น เบาะที่นั่งสามารถเลื่อนปรับพนักรองแขนได้ 80 มม. ช่องวางแก้วน้ำ 2 ช่องและฝาปิดแบบปีกผีเสื้อ ช่องใส่เหรียญและช่องใส่บัตรต่าง ๆ นอกจากนี้ ในรุ่นเกีย เพิ่มความสะดวกสบายเหนือระดับ อาทิ ระบบปรับอากาศแยกทั้งด้านหน้าและผู้โดยสารตอนหลัง ที่นั่งคนขับที่สามารถปรับด้วยระบบไฟฟ้าได้ถึง 6 ทิศทาง และภายในห้องโดยสารบุด้วยหนังคุณภาพสูง

ในประเทศไทย ฟอร์ด โฟกัส TDCi ใหม่ จะเปิดตัว 2 รุ่น คือ เกีย และสปอร์ต
รุ่นเกีย มีเฉพาะแบบ 4 ประตูเท่านั้น และมีรายละเอียดดังนี้
§ มือจับเปิดประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถพร้อมขอบโครเมียม
§ มือจับเปิดประตูด้านในโครเมียม
§ เส้นขอบโครเมียมบนกรอบด้านล่างของกระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมู
§ คิ้วกันกระแทกด้านข้างตกแต่งด้วยโครเมียม
§ ระบบปรับอากาศแยกอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา
§ กระจกส่องหน้าพร้อมไฟในตัวที่แผ่นบังแดด
§ ที่นั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง
§ ระบบสัญญาณเตือนขณะถอยหลัง
§ ล้ออัลลอยขนาด 16 X 6.5 นิ้ว ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์
§ ตกแต่งภายในด้วยหนังสีเบจ
§ พวงมาลัยหุ้มหนังแบบ 4 ก้าน
§ เครื่องยนต์ดูราทอร์ค เทอร์โบ ดีเซล คอมมอนเรลขนาด 2.0 ลิตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ PowerShift 6 สปีด
§ ระบบควบคุมเสถียรภาพอิเล็กทรอนิกส์ ESP ที่ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ดูราทอร์ค เทอร์โบ ดีเซล คอมมอนเรล
§ ป้ายบอกชื่อรุ่นเกียตรงเสา C-Pillar และฝากระโปรงท้ายรถ

ส่วนรุ่นสปอร์ตของโฟกัส เป็นแบบแฮทช์แบค 5 ประตู มีคุณสมบัติเด่นดังนี้
§ เครื่องยนต์ดูราทอร์ค เทอร์โบ ดีเซล คอมมอนเรล 2.0 ลิตร
§ ระบบควบคุมเสถียรภาพอิเล็กทรอนิกส์ ESP ที่ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ดูราทอร์ค เทอร์โบ ดีเซล คอมมอนเรล
§ ล้ออัลลอยขนาด 16X 7 นิ้ว ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์
§ ช่วงล่างแบบรถสปอร์ตสไตล์ยุโรป
§ ไฟหน้ารถเดินเส้นขอบดำ
§ สปอยเลอร์หลังสีเดียวกับตัวรถ
§ พวงมาลัยหุ้มหนังแบบ 3 ก้าน
§ เบาะที่นั่งขลิบด้วยเส้นสีเงิน ดีไซน์สะดุดตา

วิศวกรรมยานยนต์ที่แม่นยำ – เครื่องยนต์ดูราทอร์คและระบบเกียร์ PowerShift

“ระบบเกียร์อัตโนมัติ PowerShift ใหม่ ของฟอร์ด คือ ระบบเกียร์แห่งอนาคต ด้วยการทำงานแบบอัตโนมัติ 6 สปีด ดูอัลคลัตช์ (คลัตช์คู่) ให้การตอบสนองที่รวดเร็วทันใจแบบเกียร์ธรรมดา และสะดวกสบายแบบเกียร์อัตโนมัติ ด้วยเทคโนโลยีดูอัลคลัตช์ (คลัตช์คู่)ที่ให้แรงบิดที่ต่อเนื่อง ไม่มีสะดุด อันเป็นส่วนประกอบที่สมบูรณ์แบบสำหรับฟอร์ด โฟกัสใหม่”
ดร. ซิเกิร์ด ลิมบาค ผู้จัดการฝ่ายระบบเกียร์อัตโนมัติ ฟอร์ด ยุโรป

นวัตกรรมเด่นของโฟกัสใหม่คือ เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลดูราทอร์ค 2.0 ลิตรผสานกับ PowerShift ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และดูอัลคลัตช์ (คลัตช์คู่) ทำให้ฟอร์ด โฟกัสใหม่แตกต่างจากคู่แข่งในเอเชีย คือ เป็นรถยนต์นั่งขนาดกลางรุ่นแรกที่ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวซึ่งให้สมรรถนะสูง รอบเครื่องต่ำ และให้อัตราการเร่ง (throttle system) ที่ดีเยี่ยม

เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลดูราทอร์ค 2.0 ของฟอร์ดมาพร้อมเทคโนโลยีหัวฉีดคอมมอนเรลที่ล้ำสมัย ให้แรงบิดสูง ประหยัดน้ำมันสูง ขณะเร่งเครื่องเต็มที่เครื่องยนต์สามารถให้อัตราเร่งที่ทรงพลังด้วยแรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร และขึ้นสูงไปได้ถึงระดับ 340 นิวตันเมตรเป็นเวลา 8 วินาทีขณะเร่งแซง ซึ่งสูงกว่าแรงบิดสูงสุดถึง 20 นิวตันเมตร ให้กำลัง 100 กิโลวัตต์ ที่สำคัญคือ เมื่อขับขี่ในเมืองเครื่องยนต์ดูราทอร์คให้แรงบิดสูงที่รอบเครื่องต่ำจึงประหยัดเชื้อเพลิงได้ดีเยี่ยม เหมาะกับตลาดอาเซียนที่น้ำมันเบนซินและดีเซลมีราคาไม่ต่างกันมาก

ระบบเกียร์อัตโนมัติ PowerShift ใหม่ของฟอร์ด คือ ระบบเกียร์ 6 สปีด ดูอัลคลัตช์ (คลัตช์คู่) ที่ประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ พร้อมกับสมรรถนะในการขับขี่แบบเกียร์ธรรมดา ในรูปแบบความสะดวกสบายของเกียร์อัตโนมัติ

ระบบเกียร์อัตโนมัติ PowerShift ได้รับการพัฒนาโดย Getrag Ford Transmissions GmbH ก่อตั้งขึ้นจากการร่วมทุนระหว่าง Getrag และฟอร์ดฝ่ายละ 50 เปอร์เซ็นต์ ระบบเกียร์ PowerShift ประกอบด้วยชุดส่งกำลังสองชุดที่ทำงานประสานกัน โดยแต่ละชุดมีคลัตช์เปียกเป็นของตัวเอง การจัดวางเพลากลาง โดยให้ชุดหนึ่งทำงานกับเกียร์ 1, 3 และ 5 และชุดที่สองทำงานกับเกียร์ 2, 4 และ 6 เมื่อต้องการเปลี่ยนเกียร์ ระบบจะเลือกเกียร์ถัดไปไว้ล่วงหน้าขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่อย่างเต็มอัตรา การเปลี่ยนเกียร์เกิดขึ้นโดยการทำงานจากคลัตช์ทั้งสองชุดที่ทำงานประสานกันและไม่สูญเสียแรงบิด ผู้ขับขี่จะรู้สึกได้ถึงอัตราเร่งที่นุ่มนวล และราบรื่นกว่าระบบเกียร์อัตโนมัติธรรมดาอย่างชัดเจน

โครงแบบทางเทคนิคเบื้องต้นของระบบเกียร์ PowerShift ของฟอร์ด ยังมีข้อดีที่เหนือกว่าระบบเกียร์อัตโนมัติทั่ว ๆ ไปอีกหลายข้อ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ระบบย่อยที่ซับซ้อนอื่น ๆ อย่าง torque converter, planetary gear set, คลัตช์เปียกหลาย ๆ ตัว และผ้าคลัตช์หลายชิ้น ซึ่งส่วนประกอบเหล่านี้จะส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของเกียร์ลดลงอย่างมาก เนื่องจากความเฉื่อยที่เพิ่มขึ้นและผลสืบเนื่องจากการต้านแรงบิด

ผลลัพธ์ที่ได้จากการปรับปรุงระบบเกียร์นับว่าน่าประทับใจมาก ระบบส่งกำลังแบบ PowerShift ของฟอร์ด ให้ความสะดวกสบายในรูปแบบของเกียร์อัตโนมัติ ทว่าให้สมรรถนะที่เร้าใจเหมือนขับขี่ด้วยเกียร์ธรรมดา ระบบ PowerShift ยังช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ได้เร็วเหมือนรถสปอร์ต แต่ยังคงความนิ่มนวลทุกครั้งที่เปลี่ยนเกียร์ ความพิเศษที่เพิ่มขึ้นของระบบเกียร์ PowerShift คือ การให้แรงบิดที่สูงขึ้น เข้าคู่กับสุดยอดสมรรถนะของเครื่องยนต์ดูราทอร์ค เทอร์โบ ดีเซล คอมมอนเรล 2.0 ลิตรได้อย่างลงตัว

ข้อมูลอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันสำหรับฟอร์ด โฟกัส รุ่นสปอร์ต TDCi และเกีย TDCi ที่มาพร้อมระบบส่งกำลัง PowerShift ระบุชัดว่า เทคโนโลยีระบบเกียร์ดังกล่าวมีประสิทธิภาพมากเพียงไร เพราะใช้เชื้อเพลิงเพียง 5.81 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร (ข้อมูลจากยุโรป)

ในการติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติ PowerShift ในฟอร์ด โฟกัสใหม่ทั้งสองรุ่น ฟอร์ดได้ให้ความสำคัญกับ การใช้แรงบิดมหาศาลให้เป็นประโยชน์สูงสุด โดยเครื่องยนต์ดูราทอร์คความจุ 2.0 ลิตรให้แรงบิดสูงถึง 320 นิวตันเมตร (และอาจมากถึง 340 นิวตันเมตรในช่วงสั้นๆ ในโหมด “Overboost”) นอกจากนี้ ยังได้ปรับตั้งการเปลี่ยนเกียร์ใหม่ให้สามารถเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ลงต่ำได้อย่างเหมาะสม เช่น จากเกียร์ 5 ลงมาเป็นเกียร์ 4 และจากเกียร์ 4 กลับมายังเกียร์ 3 ในช่วงเวลาที่ผู้ขับขี่ต้องการอัตราเร่ง

“การตั้งค่าระบบส่งกำลังนี้ ช่วยเอื้อประโยชน์ให้กับลูกค้าของเราหลายประการ จากรอบเครื่องต่ำลงทำให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ ต้องขอบคุณเครื่องยนต์ดูราทอร์ค คอมมอนเรล ที่ให้แรงบิดที่สูงขึ้นในช่วงรอบเครื่องที่กว้างขึ้น ช่วยให้ฟอร์ด โฟกัสใหม่ เปี่ยมสมรรถนะในการขับขี่” ลิมบาค อธิบายเพิ่มเติม

ฟอร์ด โฟกัสที่ติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติ PowerShift ขับขี่สะดวกและใช้ง่ายไม่แตกต่างกับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบเดิม แท่นเกียร์อัตโนมัติที่คอนโซลกลางยังคงรูปแบบเดิม โดยมีสัญลักษณ์ P, R, N และ D ตามปกติ

ในขณะที่คันเกียร์อยู่ในตำแหน่ง D (Drive) ผู้ขับขี่ก็ยังสามารถโยกคันเกียร์ไปทางขวาเพื่อเปลี่ยนเกียร์เองเหมือนระบบเกียร์ธรรมดา ในขณะที่ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ ผู้ขับจะสัมผัสได้ถึงความสะดวกสบายไม่ต่างไปจากการขับขี่ด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบเดิม โดยเฉพาะการตอบสนองเร็วทันใจแม้ในช่วงออกตัวและการใช้ความเร็วต่ำเมื่อขับท่ามกลางการจราจรที่ติดขัด

การปรับตั้งระบบส่งกำลัง PowerShift ดังกล่าวมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ฟอร์ด โฟกัสประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น ส่วนฟังก์ชั่น “neutral idle control” ยังช่วยลดแรงบิดเมื่อรถอยู่กับที่ คือเมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรกขณะที่เข้าเกียร์ D ไว้

ระบบความปลอดภัยของโฟกัสใหม่ – Ford Intelligent Protection System

สมรรถนะในการขับขี่บนทางเรียบ ยังคงเป็นคุณสมบัติสำคัญของฟอร์ด โฟกัสใหม่ทุกคัน ด้วยโครงสร้างทางวิศวกรรมยานยนต์ที่ดีเยี่ยม ทำให้ผู้ขับขี่มือใหม่ขับขี่ได้อย่างสะดวกสบาย และนักขับมือโปรก็จะสนุกกับการขับขี่ที่เร้าใจ ด้วยระบบแชสซีที่ให้การทรงตัวดี บังคับเลี้ยวได้อย่างแม่นยำ ควบคุมได้ดังใจ และระบบเบรกยอดเยี่ยม

ฟอร์ด โฟกัสได้แสดงให้เห็นว่าเป็นรถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็คที่มีอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ครบครันที่สุด ด้วยห้องโดยสารที่แข็งแกร่ง ตัวถังที่สามารถยุบตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพกรณีเกิดการชน รวมถึงฟังก์ชั่นระบบปกป้องความปลอดภัยอัจฉริยะ (Ford Intelligent Protection System)

รถยนต์ฟอร์ด โฟกัส TDCi ยังมีระบบไฟฉุกเฉินใหม่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยระบบไฟฉุกเฉินจะทำงานอัตโนมัติทุกครั้งเมื่อมีการเหยียบเบรกกระทันหันในระยะเบรกมากกว่า 6-7 เมตร/วินาที2 ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 60-70 ของประสิทธิภาพในการเบรก (10 เมตร/วินาที2) เพื่อช่วยเตือนผู้ขับขี่รถยนต์ที่ตามมาด้านหลังในสถานการณ์ฉุกเฉิน และไฟฉุกเฉินนี้จะดับเองโดยอัตโนมัติ หรือผู้ขับขี่กดปุ่มปิดสัญญาณไฟเองได้เช่นกัน ระบบความปลอดภัยใหม่นี้ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายจากการชนทางด้านหลังขณะเบรกกะทันหัน เนื่องจากผู้ขับขี่รถยนต์ที่ขับตามหลังมาจะมองเห็นสัญญาณไฟกระพริบจากท้ายรถยนต์ฟอร์ด โฟกัส และลดความเร็วลงได้อย่างทันท่วงที

นอกจากนี้ ฟอร์ดยังได้ติดตั้ง ระบบควบคุมเสถียรภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Stability Program: ESP) และระบบ Traction Control เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ในฟอร์ด โฟกัส TDCi เกียร์อัตโนมัติ PowerShift ระบบ ESP ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่รักษาเสถียรภาพของรถยนต์ในช่วงเวลาคับขัน โดยมีเซ็นเซอร์หลายตัวที่คอยวัดความเสถียรของเครื่องยนต์ และตอบสนองต่อเสถียรภาพของรถที่ลดลงโดยการเข้าบังคับระบบเบรก ช่วยเบรกในแต่ละล้อ และลดกำลังที่เครื่องยนต์ส่งออกมา เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถต่อไปได้อย่างมั่นคง

โฟกัสใหม่ – ขับขี่มั่นใจ

ฟอร์ด โฟกัสให้คุณภาพการขับขี่ที่เหนือใคร ด้วยส่วนประกอบที่ลดการเสียดทานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งระบบกันสะเทือนอิสระด้านหลังแบบ Control Blade Multi-Link ที่พัฒนาขึ้นอีกระดับ ระบบกันสะเทือนหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท รวมทั้งซับเฟรมส่วนหน้าที่ช่วยเพิ่มสมดุลให้กับให้ฟอร์ด โฟกัสทั้งในเรื่องการขับขี่ การควบคุมรถ ความแม่นยำในการควบคุมพวงมาลัยและความสะดวกสบาย

ระยะฐานล้อและระยะห่างล้อซ้ายและขวาที่กว้างขึ้น ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นของเพลาและสปริงในส่วนประกอบต่างๆ รวมถึงลูกปืนและเหล็กกันโคลง การติดตั้งพวงมาลัยพาวเวอร์แบบ Electric-hydraulic power-assisted steering หรือ EHPAS ช่วยให้ฟอร์ด โฟกัสใหม่เปี่ยมด้วยสมรรถนะในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมเหนือรถยนต์คันอื่นๆ ในเซ็กเมนต์เดียวกัน ทั้งสะท้อนบุคลิกของแบรนด์และเผยให้เห็นความปรารถนาที่แท้จริงของทีมวิศวกรจากฟอร์ด

นอกจากนี้ ฟอร์ดได้ปรับปรุงในรายละเอียด เพื่อให้โฟกัสใหม่เงียบขึ้น ทั้งในเรื่องของเสียงรบกวน การสั่นสะเทือน และความกระด้าง (Noise, Vibration, Harshness : NVH) ด้วยการใช้ผนังห้องเครื่องยนต์ที่มีการหุ้มฉนวน เปลี่ยนพรมใหม่ที่เคลือบสารเพิ่มความทนทานและเก็บเสียงได้ดีขึ้นภายในห้องโดยสาร ปรับปรุงท่อไอดีและระบบท่อไอเสีย เครื่องยนต์ดูราทอร์ค เทอร์โบ ดีเซล คอมมอนเรลใหม่รวมทั้งการปรับปรุงฝาครอบเครื่องยนต์ใหม่ล้วนช่วยลดเสียงรบกวน การสั่นสะเทือน และความกระด้างลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งให้การขับขี่ที่นุ่มนวลทว่าเร้าใจยิ่งขึ้น

สมรรถนะและปราดเปรียวในการขับขี่ – รถยนต์ในฝันของผู้ใช้รถ

การพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของฟอร์ดในฐานะผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยียานยนต์ ช่วยให้มั่นใจว่า ฟอร์ด โฟกัสเป็นรถยนต์ที่ผลิตขึ้นเพื่อผู้ขับขี่อย่างแท้จริง ฟอร์ด โฟกัส ทำให้คุณประทับใจเมื่อขับบนถนน และปฏิกิริยาที่สอดประสานกันระหว่างถนนกับผู้ขับขี่ ช่วยให้ควบคุมการขับขี่ได้ในสภาพถนนทุกรูปแบบ การตอบสนองต่อการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมและการควบคุมพวงมาลัยได้อย่างแม่นยำ สอดประสานกับส่วนของโครงสร้างตัวถังที่ช่วยให้สามารถขับขี่ได้อย่างลื่นไหล

ซับเฟรมชิ้นหน้าที่แข็งแกร่งสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เมื่อผนวกกับระบบกันสะเทือนอิสระด้านหลังคอนโทรลเบลด และเทคโนโลยีการออกแบบแบบ Hydrobush Design ช่วยเพิ่มการทรงตัวในขณะเข้าโค้งได้โดยไม่รู้สึกถึงความกระด้างของช่วงล่างเหล็กกันโคลงมีความทนทานมาก
ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์แบบ Electric-hydraulic power-assisted steering (EHPAS) ในฟอร์ด โฟกัสใหม่ ช่วยให้การขับขี่ในช่วงความเร็วต่ำทำได้อย่างเบาแรง และประหยัดน้ำมันได้มากถึง 0.21 ลิตร/ 100 กิโลเมตร หรือน้อยกว่าระบบพวงมาลัยทั่วไปประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ ขณะเดียวกันก็ช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างแม่นยำตลอดเส้นทางที่ความเร็วสูง จานเบรกขนาดใหญ่ให้ความรู้สึกมั่นใจในการควบคุมรถที่เป็นเลิศ ช่วยให้เบรกได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงในช่วงเวลาฉุกเฉิน และถนอมผ้าเบรกให้มีอายุใช้งานยาวขึ้น

ระบบเบรก – สมรรถนะที่มั่นใจได้

ระบบเบรกได้รับการออกแบบและผลิตขึ้นเพื่อสมรรถนะการขับขี่ที่วางใจได้ และลดระยะเบรกลงให้เหลือสั้นที่สุด ขับขี่ได้อย่างนุ่มนวลราบรื่นโดยเฉพาะในช่วงความเร็วต่ำเพื่อให้ขับขี่ในเมืองได้อย่างสะดวกสบาย แป้นเบรกและแรงเบรกสัมพันธ์กันอย่างสมดุล ให้ความรู้สึกมั่นใจสูงสุดแก่ขับขี่ในทุกช่วงความเร็ว

# # #

Ford Escape ใหม่ โฉมปี 2008

ฟอร์ด เอสเคป ใหม่

· ด้วยแนวคิด การออกแบบแนวร่วมสมัย ฟอร์ด เอสเคป ใหม่ สะดุดตาด้วยรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวกว่าเดิม
· โครงสร้างโดดเด่นสมดุล เส้นสายอันโฉบเฉี่ยวของฝากระโปรง มาพร้อมกับโป่งคิ้วล้อ ที่เด่นสะดุดตา รับกับล้อขนาด 16 นิ้ว ที่สะท้อนสุดยอดสมรรถนะในการขับขี่ทั้งบนทางเรียบและออฟโรด
· กระจังหน้าใหม่เท่ด้วยแถบโครเมียม 3 แถบพร้อมตราสัญลักษณ์ของฟอร์ด แผงกันชนหน้าขนาดใหญ่ รับกับไฟหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมไฟตัดหมอก สร้างความโดดเด่นของเส้นสายบนตัวรถ พร้อมหลังคาซันรูฟ ที่ช่วยเพิ่มรูปลักษณ์ทันสมัยให้ฟอร์ด เอสเคปใหม่ เหมาะสมกับนิยามของเอสยูวีสายพันธุ์แท้
· ฟอร์ด เอสเคป ใหม่ ให้ความรู้สึกของการขับขี่ที่เหมือนรถยนต์นั่ง แต่ให้ทัศนวิสัยที่เหนือกว่า
· เพิ่มความสปอร์ต ด้วยเสา B-pillars สีดำกลมกลืนไปกับกระจกและตัวถัง ช่องระบายลมที่โป่งล้อมอบเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของรถเอสยูวี สู่ฟอร์ด เอสเคป
· ฟอร์ด เอสเคปใหม่ เปิดตัวทั้งในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ
· ประตูท้ายดีไซน์ร่วมสมัยพร้อมไฟหลัง แบบLED
· กาบด้านข้างประตูเพิ่มความเฉียบคมสไตล์ทันสมัยยิ่งขึ้น
· เครื่องยนต์เบนซินดูราเทค VVT (Variable valve timing) ขนาด 2.3 ลิตร ตอบสนองทันใจทุกการขับขี่และช่วยประหยัดน้ำมัน
· ดีไซน์ของฟอร์ด เอสเคปใหม่ ได้รับแรงบันดาลใจจากรถต้นแบบเอสเคป เอ็กซ์เพรสชั่นที่เผยโฉมสู่สาธารณชนในงานโตเกียวมอเตอร์โชว์ 2007

“ฟอร์ด เอสเคปใหม่ มีดีไซน์โดดเด่นสไตล์ร่วมสมัย รูปลักษณ์เพรียวลม บุคลิกปราดเปรียว สวยสง่าลงตัวทุกมุมมองสะท้อนจุดยืนการออกแบบใหม่ของฟอร์ดได้อย่างชัดเจน แม้ว่าเราจะลบเหลี่ยมมุมต่างๆ ออกไปบ้าง แต่ทุกอณูของเอสเคปแสดงถึงความทรงพลัง และความสามารถของ SUV ตัวจริง ที่พร้อมจะออกไปผจญภัยอย่างเต็มพิกัด ซึ่งล้วนเป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ดตลอดมา”

พอล กิบสัน
หัวหน้าทีมดีไซเนอร์ ฟอร์ด เอสเคป
สิงหาคม 2551






ฟอร์ด เอสเคปรุ่นปี 2008 เปิดตัวด้วยรูปโฉมใหม่ที่ปราดเปรียวมากขึ้น เพิ่มความทันสมัยด้วยดีไซน์ใหม่หลายรายการช่วยให้ขับขี่สบายเหมือนรถยนต์นั่ง แต่ควบคุมได้ดังใจแบบ รถ SUV ตัวจริง

“ฟอร์ด เอสเคปใหม่ ปี 2008 มาพร้อมกับรูปลักษณ์เอสยูวี สปอร์ต และมีสไตล์ โดยรวบรวมคุณลักษณะที่โดดเด่น และความอเนกประสงค์ของรถ SUV ไว้ทั้งหมด ให้ทั้งความสะดวกสบายในการขับขี่ประจำวัน และความสามารถด้านออฟโรดเพื่อการผจญภัย พร้อมอุปกรณ์ด้านปลอดภัยที่อัดแน่น ทำให้ผู้เป็นเจ้าของรู้สึกมั่นใจ และภูมิใจยิ่งขึ้นกับรถ เอสยูวีสายพันธุ์แท้คันนี้” นายสาโรช เกียรติเฟื่องฟู รองประธานอาวุโส ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว

รูปโฉมใหม่ของฟอร์ด เอสเคป แสดงเอกลักษณ์ของแนวคิดการออกแบบรถฟอร์ดได้อย่างชัดเจน พร้อมเพิ่มคุณลักษณะเด่น ของฟอร์ด เอสเคป ให้ปราดเปรียว ตามหลักพลศาสตร์มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังคงความแข็งแกร่ง ทรงพลัง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ฟอร์ด เอสเคปแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด

พอล กิบสัน หัวหน้าทีมออกแบบ ฟอร์ด กล่าวว่า “ฟอร์ด เอสเคปใหม่แข็งแกร่งและดูประณีตงดงาม ซึ่งเป็นหัวใจของรูปลักษณ์ที่เร้าใจสไตล์สปอร์ตในการขับขี่ในทุกสภาพถนน ด้วยรูปทรงที่ดูปราดเปรียวเมากขึ้น ทำให้ดูเหมือนรถกำลังพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ความทรงพลัง ทนทาน และเปี่ยมด้วยความสามารถ เป็นคุณลักษณะที่ทำให้ฟอร์ด เอสเคปโดดเด่นตลอดมา”

รูปโฉมภายนอกได้รับการพัฒนาขนานใหญ่ เริ่มจากด้านหน้ารถ โป่งล้อใหม่ กันชนใหม่ ไปจนถึงประตูท้ายใหม่ รวมทั้งการตกแต่งรายละเอียดสำคัญๆให้ฟอร์ด เอสเคป ให้ดูทันสมัยมากขึ้น เช่น ไฟหน้าและไฟตัดหมอกใหม่ ล้ออัลลอยลายใหม่ กระจังหน้าใหม่ ซุ้มล้อใหม่ กาบด้านข้างประตู ใหม่ ประตูท้ายและไฟท้ายใหม่

ดีไซน์ใหม่สง่างามแต่เรียบง่าย ฟอร์ดได้ถอดคิ้วโครเมี่ยมจากกระโปรงรถและประตูท้ายช่วยเพิ่มความสมดุลให้ด้านหน้าและด้านท้ายรถ ทำให้ฟอร์ด เอสเคปโฉมใหม่ดูเท่สง่างามยิ่งขึ้น

ดีไซน์ใหม่ของฟอร์ด เอสเคปได้รับแรงบันดาลใจจากรถต้นแบบรุ่น ฟอร์ด เอสเคป เอ็กซ์เพรสชั่น ซึ่งฟอร์ดนำมาโชว์ที่งานโตเกียวมอเตอร์โชว์ 2007

ฟอร์ด เอสเคป ใหม่เหมาะทั้งกับการใช้ชีวิตในเมืองและรองรับการใช้ชีวิตอิสระสมบุกสมบันกับกิจกรรมกลางแจ้งและการผจญภัย

มร.ฮิโรอากิ ฮาชิโมโต ผู้อำนวยการโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก และแอฟริกา ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี กล่าวว่า “หัวใจหลักของโครงการพัฒนาฟอร์ด เอสเคปใหม่คือ เอกลักษณ์ความสบายเหมือนรถยนต์นั่งและสมรรถนะเป็นเลิศทั้ง on-road และ off-road เราต้องคงความแข็งแกร่ง และทนทานที่สร้างชื่อให้กับฟอร์ด เอสเคปมานานในตลาดนี้ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสร้างความโดดเด่นของรถ 4x4 ออกมาอย่างชัดเจน

โฉมใหม่ จาก DNA ของฟอร์ด
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเปลี่ยนโฉมของฟอร์ด เอสเคปรุ่นปี 2008 คือ บุคลิกที่เปี่ยมด้วยความมั่นใจ บุคลิกใหม่ ที่ยังคงมี DNA ของดีไซน์ฟอร์ดอยู่ในหลายจุด

ด้านหน้าของฟอร์ด เอสเคปโฉมใหม่ โดดเด่นด้วยกระจังหน้าพร้อมแถบโครเมียม 3แถบและมีตราสัญลักษณ์ฟอร์ดขนาดใหญ่ชัดเจนขึ้น ทำให้ฟอร์ด เอสเคปใหม่ มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่น คานกันชนหน้าสีดำแบ่งส่วนกลางกระจังหน้าด้านล่างออกเป็นสองส่วน และส่วนล่างสุดปิดด้วยสปอยเลอร์สีเดียวกันกับตัวถังสะท้อนถึงความเป็นรถระดับพรีเมี่ยม เมื่อมองจากด้านหน้า “กระจังหน้า” ของเอสเคปเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของรถ SUV คันนี้

กระโปรงหน้าดีไซน์ใหม่ เส้นโค้งสองเส้นบนฝากระโปรงหน้าสื่อถึงความทรงพลัง และทำให้เอสเคปดูปราดเปรียวมากขึ้น ทั้งยังสอดคล้องกับแถบโครเมียมแนวนอนบนกระจังหน้าด้วย

ไฟหน้าและไฟตัดหมอกใหม่ทำให้ดีไซน์ด้านหน้าของฟอร์ด เอสเคป ใหม่ สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ไฟหน้าใหม่มีคิ้วแนวขวางทำให้ดูปราดเปรียว โคมไฟที่เฉียงขึ้นรับกระจังหน้าและส่งต่อความปราดเปรียวสู่ฝากระโปรงและโป่งล้ออย่างกลมกลืน ภายใต้กรอบใหม่ โคมไฟหน้าที่มีไฟ 2 ดวงรวมเอาไฟเลี้ยวไว้ด้วยกัน เพิ่มมุมมองอย่างชัดเจนในมุมที่กว้างขึ้น

ไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่ โดยติดตั้งอยู่บนพื้นสีดำบนกันชนหน้าเน้นแนวขวาง กิบสันกล่าวว่า “ดีไซน์ใหม่ด้านหน้าทำให้ฟอร์ด เอสเคปใหม่ดูสะดุดตามากขึ้น เปี่ยมด้วยความมั่นใจ ที่สื่อออกมาจากตราสัญลักษณ์ของฟอร์ด รวมทั้งกระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ซึ่งจะพบได้ในรถยนต์ตระกูลฟอร์ดรุ่นต่อๆ ไป”

ปราดเปรียวยิ่งขึ้น
รูปลักษณ์ของฟอร์ด เอสเคปสื่อถึงความประณีตสวยงามเช่นเดียวกับในรถยนต์นั่ง พร้อมความปราดเปรียวในทุกเส้นทาง เมื่อมองจากด้านข้าง ฟอร์ด เอสเคปใหม่ดูใหญ่ขึ้น มีโป่งคิ้วล้อที่ใหญ่บึกบึนมากขึ้น ล้อใหม่ขนาด 16 นิ้ว และดีไซน์พิเศษอื่นๆอีกมากมาย

ฟอร์ด เอสเคปใหม่ดูปราดเปรียวมากขึ้น ด้วยกรอบของตัวรถด้านหน้าที่โค้งลาดจากกระจังหน้า ต่อเนื่องถึงฝากระโปรง ที่สื่อถึงความเร็ว และความคล่องตัวเช่นเดียวกับรถยนต์นั่ง

อีกหนึ่งดีไซน์ใหม่ซึ่งเป็นรูปลักษณ์ที่มักจะพบในรถยนต์นั่งระดับหรู คือ ไฟเลี้ยวที่ติดตั้งบนกรอบกระจกมองข้าง ทำให้รูปลักษณ์โดยรวมสวยงามดูดีมีสไตล์ขึ้น เพิ่มการมองเห็นและประโยชน์ใช้สอยของรถด้วย

การออกแบบรวมทั้งรายละเอียดใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามาช่วยทำให้เส้นสายแนวนอนของรถเด่นชัดขึ้น ลดเหลี่ยมมุมให้น้อยลง ดูทันสมัยเหมาะกับคนรัก SUV รุ่นใหม่มากขึ้น



ซุ้มล้อที่มีขนาดใหญ่เป็นอีกหนึ่ง DNA ของรถฟอร์ด และสำหรับฟอร์ด เอสเคปใหม่นี้ ซุ้มล้อถูกออกแบบใหม่ให้มีสีเดียวกับตัวถังซึ่งจะดูสะดุดตาและหรูมีระดับมากขึ้น

ล้อใหม่ขนาด 16 นิ้วพร้อมกระทะล้ออลูมิเนียมแบบ 5 ซี่คู่เสริมความปราดเปรียวและทรงสมรรถนะดูทันสมัยเมื่อมองจากด้านข้าง

ส่วนหลังของโป่งล้อหน้ามีช่องระบายลมซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ด เอสเคป พร้อมทั้งติดตราฟอร์ดบนพื้นดำ ทำให้สะดุดตามากขึ้น

กาบด้านข้างประตูสีเดียวกับตัวถังเพิ่มความทันสมัยให้กับฟอร์ด เอสเคป ใหม่ ติดตั้งอย่างประณีตกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับตัวถังและโป่งล้อ

ท้ายใหม่สะกดทุกสายตา
ทางด้านท้ายของฟอร์ด เอสเคป ใหม่ ก็สามารถสังเกตเห็นดีไซน์ใหม่ที่ชัดเจน ทั้งประตูท้ายใหม่ พร้อมไฟท้าย แนวนอนดูทันสมัย ไม่ทิ้งบุคลิกความเป็นรถ SUV พันธุ์แท้ของฟอร์ด เอสเคป

ไฟท้ายใหม่แบ่งออกเป็นสองส่วนติดตั้งอยู่บนประตูท้าย และบนกันชนหลัง โค้งมนโอบรอบไปตามเส้นสายของตัวถัง รวมไฟท้าย LED ใหม่ และไฟถอยหลังไว้ในชุดเดียวกัน ที่ท้ายรถส่วนเหนือกระจกหลังติดตั้งไฟเบรกดวงที่ 3 กลางบานประตูท้ายรถดีไซน์ใหม่ติดตราสัญลักษณ์ฟอร์ดขนาดใหญ่ที่ทำด้วยโครเมียมซึ่งเป็นจุดเดียวบนท้ายรถที่ฟอร์ด ทำให้ดูกลมกลืนทันสมัยยิ่งขึ้น

กันชนหลังดีไซน์ใหม่ติดตั้งแถบสะท้อนแสงที่มุมด้านล่าง และเสาอากาศแบบ "บี-สตริง" บนหลังคาด้านท้ายรถ ให้อารมณ์ทันสมัยสไตล์สปอร์ต

สีรถ
ฟอร์ด เอสเคป ใหม่เพิ่ม 2 โทนสีใหม่ คือ สีเงิน มูนดัสต์ซิลเวอร์ (Moondust Silver) และ สีทองอ่อน ชิลล์ (Chill) ทำให้มีสีให้เลือกทั้งหมดถึง 4 สีสุดเท่ รวมทั้งสีน้ำเงินเข้ม โอเชียน บลู (Ocean Blue) และ สีดำ แพนเธอร์แบล็ค (Panther Black)

ภายในของฟอร์ด เอสเคปใหม่ยังคงติดตั้งด้วยเบาะหนัง และบุด้วยผ้าลายจุด แซมด้วยโลหะสีไทเทเนียมบนคอนโซลกลาง ในรุ่น 4x4 XLT มาพร้อมกับเบาะหนังแบบพรีเมียม ที่เปิดประตูด้านในโครเมียม และชุดแต่งรอบคัน (กันกระแทกกันชนหน้า, กันกระแทกใต้กันชนหลัง, กันกระแทกด้านข้าง, สปอยเลอร์หลัง และที่ครอบไฟตัดหมอก)

SUV สายพันธุ์แท้ – สมรรถนะเยี่ยมทั้งแบบขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ
ฟอร์ด เอสเคปใหม่มีให้เลือก 2 รุ่น คือ
· รุ่นขับเคลื่อนสองล้อ 4x2 XLS
· รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ 4x4 XLT

นายสาโรชกล่าวว่า “ฟอร์ด เอสเคปใหม่ มีความโดดเด่นในทุกด้าน เป็นรถ SUV ที่ให้ความคุ้มค่ามากที่สุดในตลาด ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ On-demand เครื่องยนต์ที่ให้ความประหยัดแต่สมรรถนะสูง พร้อมเกียร์อัตโนมัติ และถุงลมนิรภัย 4 จุด”

ฟอร์ด เอสเคปโฉมใหม่สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาของรถยนต์ตระกูลเอสเคป โดยติดตั้งเครื่องยนต์ 2.3 ลิตร 4 สูบเรียงและระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 4 สปีด เหนือคู่แข่งด้วยสมรรถนะของ SUV ตัวจริง ทั้งความสูงจากพื้น 210 มิลลิเมตรสำหรับรุ่น 4x4 และ 200 มิลลิเมตรในรุ่น 4x2 ที่เหนือกว่าใครในรถระดับเดียวกัน สื่อให้เห็นถึงการพัฒนาเพื่อการใช้ชีวิตแบบเอ้าท์ดอร์ผจญภัยโดยเฉพาะ

มร.ฮาชิโมโตกล่าวว่า “รูปลักษณ์ที่ทันสมัยมากขึ้นไม่ได้ทำให้สมรรถนะแบบรถ SUV ตัวจริงของ ฟอร์ด
เอสเคปใหม่ลดลงไปเลย ไม่ว่าคุณจะขับแบบออฟโรด มุมขึ้นลาดและมุมลงลาดที่ดีกว่าคู่แข่งทำให้
ฟอร์ด เอสเคปแตกต่างและโดดเด่นกว่าใคร”

มุมขึ้นลาด (Approach angle) ของฟอร์ด เอสเคปใหม่รุ่น 4x4 XLT อยู่ที่ 28.5 องศาและมุมลงลาด (Departure angle) มีขนาด 30 องศา ความสูงจากพื้นขนาด 210 มิลลิเมตร ความกว้างระหว่างฐานล้อหน้า 1,545 มิลลิเมตร ฐานล้อหลัง 1,535 มิลลิเมตร และฐานล้อ 2,620 มิลลิเมตร



เครื่องยนต์ดูราเทค 2.3 ลิตรแบบ 4 สูบให้พลังแรง ตอบสนองได้ทันใจ และประหยัดน้ำมันอย่างน่าประทับใจ เครื่องยนต์แบบหัวฉีดให้พลังสูงสุด 146 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที (107 KW / 146 HP)แรงบิดสูงสุด 196 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที (196 Nm) ในด้านการประหยัดน้ำมัน รุ่น 4x4 XLT กินน้ำมันเพียง 10.10 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนรุ่น 4x2 XLS กินน้ำมัน 10.42 กิโลเมตรต่อลิตร (ผลการทดสอบตามมาตรฐาน ECE R101 จาการทดสอบบนเส้นทางในเมืองและนอกเมือง)

ฟอร์ด เอสเคปใหม่มีกำลังฉุดลากสูงได้ถึง 750 กิโลกรัม เมื่อลากจูงยานพาหนะหรือของหนักที่ไม่มีเบรกในตัว แต่สามารถเพิ่มน้ำหนักได้มากถึง 1,000 กิโลกรัม เมื่อลากจูงรถหรือยานพาหนะอื่นที่มีเบรกในตัว

ฟอร์ด เอสเคป ใหม่ ติดตั้งระบบกันสะเทือนหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท และมัลติลิ้งค์สำหรับด้านหลัง รวมทั้งดิสก์เบรกทั้งหน้าและหลัง และใช้ยางรุ่นกู๊ดเยียร์แรงเลอร์ 215/70R 16 เป็นมาตรฐาน

ในเรื่องความปลอดภัย ฟอร์ด เอสเคป ใหม่ยังคงเป็นหนึ่งเดียวที่ติดตั้งด้วยถุงลมนิรภัยสำหรับที่นั่งด้านหน้าที่ให้การปกป้องหน้าอก ศีรษะและด้านข้างเป็นมาตรฐาน รวมทั้งยังติดตั้งระบบความปลอดภัยและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายเพิ่มให้อีก เช่น ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (ABS) ระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) ระบบควบคุมอุณหภูมิและซันรูฟ

























THE NEW FORD ESCAPE

· Contemporary design freshens Escape with a sleek new look
· Poised stance, ‘power dome’ hood, bold wheel arches and new 16-inch wheels signal Escape’s dynamic capabilities, on-road and off-road
· Ford three-bar grille, larger Ford oval badge, purposeful lower trapezoidal grille and wraparound headlamps and fog lamps give new Escape a distinctive face
· Escape offers car-like ride and handling with real SUV capabilities
· Modern appeal: new profile look features blacked-out B-pillars, dynamic lines and intriguing graphics, including an Escape signature front fender vent
· New Escape is available in ASEAN markets in four-wheel-drive and two-wheel-drive models
· New tailgate design with wraparound high-intensity LED tail lamps
· Discreet new lower side cladding emphasizes precision and modernity
· Powered by the reliable Duratec 2.3-litre petrol engine with variable valve timing for responsive performance and low fuel consumption
· New Escape’s design inspired by the Escape Expression concept vehicle revealed at the 2007 Tokyo Motor Show


"The new Ford Escape introduces a stylish, more contemporary design that gives it genuine urban appeal. It’s sleeker and more streamlined, with a dynamic character and a fresh new face reflecting Ford’s signature design cues. We may have rounded its edges but Escape still offers every bit of strength, real SUV capability and adventure that have always been its hallmarks.


Paul Gibson
Escape Chief Designer
August 2008



Streamlined and aerodynamic, the new 2008 Ford Escape debuts with an array of design enhancements that create a contemporary new look to its unique combination of car-like ride and handling and real SUV capability.

“Our new Ford Escape for 2008 features a refreshing new style that gives it fresh appeal,” said Saroj Kiatfuengfoo, Senior Vice President of Ford Thailand. “This is a vehicle that has the features and flexibility to offer everyday comfort and driving ease plus the capability for adventure. It’s a great combination and a great value.”

New Escape features a fresh face incorporating key elements of Ford design DNA and a new character that feels sleeker and more dynamically poised. Yet it retains the strength and robustness that have been at the core of the Escape brand and differentiate it from other vehicles in its segment.

“The new Escape is both tough and refined, and that’s key to its fun and sporty appeal in any environment,” said Paul Gibson, chief designer. “It feels sleeker and more streamlined, like it’s slipping through the air and the profile is faster without compromising the robustness, durability and capability that Escape has always stood for.”

The design changes to the Escape exterior are extensive, featuring a new front, new fenders, new bumpers and a new tailgate, plus additional revisions to key details of the popular Ford compact SUV’s design. These include new front fog lamps, headlamps, alloy wheels, grille treatment, wheel arches, door cladding, tailgate and tail lamps.

Elegance through simplicity has also been achieved through removing elements of chrome garnish from the hood and tailgate, in turn balancing the front and rear of the vehicle and adding to Escape's more sophisticated appearance.

Design of the new Escape was inspired by Ford’s Escape Expression concept, which was featured at the 2007 Tokyo Motor Show.

Underneath its new skin, the Ford Escape is well suited to the city life with the durability to survive outdoor adventures.

"From the outset of the development program for the new Escape, preserving its unique dual capabilities has been at the core of our engineering approach," said Hiroaki Hashimoto, product development programs director, Asia Pacific and Africa, Ford Motor Company. "We've retained all of the strengths, ruggedness and durability that have made Escape a legend in its segment. Outstanding 4x4 capability is at the top of that list."


New Face from Ford DNA

Most significant among the design changes for the 2008 Escape is its confident, new front design embracing several elements that are key features of Ford design DNA.

The new face of Escape features the distinctive Ford three-bar grille with an integral Ford oval badge at its centre. The grille, finished with a sophisticated chrome effect, combines with a larger, prouder Ford oval to create an unmistakable visual signature that Escape is part of the Ford showroom.

Another key Ford DNA feature is Escape’s pronounced lower grille. This inverted trapezoid shape conveys power and performance. It features recessed meshing and is bisected subtly by a black bumper beam. Its lower edge is enclosed by a body-colour chin spoiler.

The Escape front design is accentuated by a new hood design featuring dual raised ‘power domes’ as an expression of strength. The new hood design reinforces new Escape's streamlined front and complements the raked grille angle.

New wraparound headlamps and fog lamps complete the face of the new Escape.

The new headlamps, with a horizontal eyebrow feature line, are sleek and aerodynamic in appearance. The sweeping lamp design visually joins the grille shape while flowing into the hood and fender shapes integrally. The new dual-beam headlamp design also incorporates the turn indicators, which are visible from a wider angle in the new wraparound shape.

The wraparound effect continues with the fog lamps, which are designed into sculpted black inserts in the bevelled recesses in Escape’s new front bumper. This design touch further communicates width and stance.

“The new front design proudly asserts itself as part of the Ford showroom,” Gibson said. “The front of the Escape communicates confidence with the proud Ford oval combined with the lower trapezoidal grille. These will increasingly be associated with Ford vehicles.”

Faster Profile

Escape’s profile signals its car-like refinement and dynamic capabilities – on-road and off-road. Escape’s side view features larger, more aggressive wheel arches, new 16-inch wheels and a number of special design touches.

The faster profile of the new Escape design begins at the front of the vehicle with the more steeply raked grille and hood shape. This gives the profile shape more speed, a design signal that signals Escape’s 'car style' ride and handling.

A stylish new feature, often the domain of more expensive passenger cars, is the integration of the turn indicator into the side mirror. This improves overall appearance as well as adds to the visibility and function of the vehicle.

These pronounced design improvements and other subtle design touches on the new Escape emphasize the horizontal lines of the vehicle. This gives Escape a less upright, less boxy design, and is another contemporary design touch for this segment.

Larger, more pronounced wheel arches are another Ford DNA element that is magnified on the new Escape. The addition of body-coloured wheel arch mouldings provides a more sophisticated look for the new model.

New 16-inch cast aluminium wheels with five dual spokes carry on the theme of performance and dynamic poise. They also contribute to Escape's modern look and enhance the appearance of the vehicle when viewed from profile.

The new front fender design incorporates a distinctive, Escape signature, air vent at its rear edge. This design touch, with Escape badging over black mesh, adds further visual appeal to the bodyside image.

New lower side cladding, also executed in body colour, contributes to the modern style of Escape, integrating the body side and new fender shapes with sculpted precision.

New Rear Look
New Escape’s rear view reflects a number of key design enhancements, including a new tailgate design with wraparound high-intensity LED tail lamps.

The new rear shape accentuates the horizontal – providing a more contemporary feel without compromising Escape’s genuine SUV character.

Escape features a new, two-piece tail lamp design that incorporates the lamp unit into the tailgate and rear bumper to the full extend of Escape’s bodyside waistline contour. The new LED tail lamp design – a contemporary technology – incorporates reversing lights into its design.

The tailgate design, punctuated by another large Ford oval badge and integrated upper centre high-mounted stop lamp above the glass, features straightforward chrome-letter badging. This is the only use of chrome on the tailgate on the new model, a technique that delivers an understated, uncluttered style.

Escape features a new rear bumper design with the integrated rear light reflectors at the lower corners.

Even the radio antenna, located on the roof at the rear of the vehicle, adds to the contemporary design feel. Its short, sportily angled design has been dubbed a 'bee sting' antenna by the Escape design team.

Colours
Two stylish new colours have been introduced for model-year 2008 Escape – Moondust Silver and Chill (light gold) – with the launch of the new model, taking the colour range to four.

Other colours available are Ocean (dark blue) and Panther Black.

The new Escape interior features Pebble interior fabrics and leather seat inserts, complemented by a Titanium Stone metallic finish to the centre stack and silver accents. The 4x4 Escape XLT is differentiated by premium Medium Pebble Leather (perforated) seating surfaces, bright door handles and VP Sport Package (Front Bumper Over rider, Side Rocker, Rear Spoiler, Rear Skid Plate and Fog Lamp Cover).

Genuine SUV – 2WD and 4WD Capability
Escape is available in two models:
Escape XLS (4x2)
Escape XLT (4x4)

"With on-demand all-wheel-drive, automatic transmission and front seat side head/thorax airbags as standard, the changes announced today have further strengthened Escape's overall appeal and make it one of the best value-proposition SUV packages available," said Saroj.

The release of the new model heralds a realignment of the Escape nameplate. One highly specified model, sporting a 2.3-litre four-cylinder inline petrol engine coupled to a floor-mounted four-speed automatic transmission, now represents the range.

Escape differentiates itself from its competitive segment with its real-SUV capabilities. Escape has the highest ground clearance in its class –210 mm for 4x4 and 200 mm for 4x2 – a signal that it is engineered for adventure.

"Escape's SUV capabilities are absolutely uncompromised with this contemporary new look," said Hashimoto. "If you go off-road, numbers like the approach angle and departure angle separate the SUVs from the rest, and that's where Escape shines."

The 4x4 Escape XLT offers an approach angle of 28.5 degrees and a departure angle of 30 degrees. It has 210mm of running clearance and a confident stance, with a track of 1545mm front and 1535mm rear and a wheelbase of 2620mm.

Ford’s proven 2.3-liter Duratec four-cylinder engine provides responsive power and competitive fuel economy. The fuel-injected engine is rated at 146 HP of peak power at 6,000rpm. Maximum torque is 196Nm at 4,000rpm. The 4x4 Escape XLT achieves very respectable fuel efficiency of 10.10 km per litre The 4x2 Escape XLS is even more fuel frugal to return 10.42 km per litre (The fuel consumption tests for Ford Escape 2.3L has been conducted according to ECE R101).

Towing capacity of Escape remains unchanged at 750kg unbraked, which increases to 1,000kg for braked loads.

Escape is equipped with a MacPherson strut front suspension and multi-link rear suspension, plus disc brakes front and rear. Goodyear Wrangler 215/70R16 tyres are standard.

Safety has also been boosted thanks to the inclusion of front seat side/head thorax airbags as standard. Additional standard-fit safety and creature-comfort features include Anti-lock Brakes (ABS) with Electronic Brakeforce Distribution (EBD), cruise-control, climate control and sunroof.

# # #